วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

VCD ซีรีย์ อุลตร้าแมนกิงกะ ภาคแรก

ซีรีย์ภาคแรกของอุลตร้าแมนกิงกะมีทั้งหมด 12 ตอนจบ (ของดั่งเดิมคือ 11 ตอนจบ)
ซึ่งภาคมูฟวี่สเปเชี่ยล 1 (ภาคที่มี ไทแรนด์และดาร์คซากิ) ถูกนำมาเป็นตอนที่ 7

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

2007ญี่ปุ่นและอุลตร้าแมนได้รับรางวัลThe World Science Fiction Society (WSFS)
รางวัลฮิวโก เป็นรางวัลสำหรับนักเขียนนิยายแนววิทยาศาสตร์และแฟนตาซีซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติตามชื่อ ฮิวโก เจิร์นสแบค รางวัลนี้มีการมอบให้ทุกปี โดย The World Science Fiction Society (WSFS) โดยพิจารณาการเสนอชื่อ และลงคะแนนนิยมในงาน World Science Fiction Convention (Worldcon) ซึ่งสมาชิกจะพิจารณาจากผลงานที่ปรากฏในปีก่อนหน้าที่จะมีงาน ทั้งนี้สมาชิกสามารถเลือก "ไม่ลงคะแนน" ให้กับผลงานใดเลยก็ได้ ในบางปีจึงไม่มีการมอบรางวัลเนื่องจากไม่มีผลงานที่โดดเด่นเพียงพอ ย้อนไปเมื่อ ปี 2007 8 ปีก่อน ญี่ปุ่นและอุลตร้าแมนได้รับรางวัลนี้



วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2558

อาร์เอส


ไอ ดรีม จั
บมือไชโย โปรดักชั่นส์ ซื้อลิขสิทธิ์ “Project Ultraman” เปิดปรากฏการณ์ใหม่ภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ เมืองไทย

อาร์เอสไอ ดรีม เซ็นสัญญา ไชโย โปรดักชั่นส์  ซื้อลิขสิทธิ์ “Project Ultraman” ภาพยนตร์ทีวี ซีรี่ย์ ชุดใหม่ พร้อมรับหน้าที่ดูแลด้านการตลาดตลอด  5 ปีเต็มในไทย ย้ำเป็นปรากฏการณ์ใหม่ด้านเทคนิคการถ่ายทำ ที่สมจริง สวยงาม อลังการ และเทคนิค CG ระดับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดถ่ายทำแล้วเสร็จกว่า 80% พร้อมลงจอเอาใจแฟนพันธุ์แท้อุลตร้าแมนและผู้ชมชาวไทยที่แรกก่อนเปิดตัวสู่ตลาดโลก ในเดือนเมษายน  2550 นี้
นายสุรชัย   เชษฐโชติศักดิ์   ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท  อาร์เอส  จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อาร์เอสไอ ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า อาร์เอส ไอดรีม  เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์สชุด “Project Ultraman”  จากบริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนอย่างเป็นทางการทั่วโลกยกเว้นประเทศญี่ปุ่น  โดยบริษัทจะทำหน้าที่ดูแลด้านเผยแพร่ และการตลาด ในรูปแบบต่างๆ ครบวงจร อาทิ ฟรีทีวี เคเบิลทีวี  บรอดแบรนด์อินเตอร์เน็ต  โฮมวีดีโอ   นิวมีเดีย  ดิจิตอลมีเดีย  ให้กับ “Project Ultraman” ทั้งหมดในประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปีเต็ม
“บริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ ฯ ให้ความไว้วางใจมอบลิขสิทธิ์ Project  Ultraman  ให้บริษัทเป็นผู้ดูแล พร้อมกับดำเนินการด้านการตลาด  ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้  เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่านโยบายของบริษัทยังคง
เดินหน้าที่จะเป็นผู้ให้บริการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบที่สุดรายหนึ่งในประเทศ  ซึ่ง Project Ultraman เป็นภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ส ที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะกับคนไทยที่รู้จักและคุ้นเคยกับอุลตร้าแมนเป็นอย่างดี  ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่น และคาดว่า Project Ultraman จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี” นายสุรชัยกล่าว

ด้านนายพีระศิษฎ์ แสงเดือนฉาย ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท  ไชโย โปรดักชั่นส์  จำกัด  ผู้ถือลิขสิทธิ์ “อุลตร้าแมน” กล่าวว่า “Project Ultraman”  เป็นภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ส  ซึ่งได้ศิลปินนักแสดงชื่อดังเข้าร่วมแสดงด้วย Ekin  Cheng หรือ เจิ้งอี้เจี้ยน เป็น  Ultraman Elite (อุลตร้าแมน อีลิท), เรย์  แมคโดนัลด์ เป็น  Dark Ultraman  (ดาร์ค อุลตร้าแมน) และ แมทธิว  ดีน  เป็น Ultraman Millennium (อุลตร้าแมน มิลเลเนียม)  ร่วมด้วย พอลล่า เทเลอร์, สะอาด เปี่ยมพงษ์ศานต์ และ นิรุตติ์ ศิริจรรยา ใช้งบประมาณกว่า  150 ล้านบาทในการถ่ายทำด้วยเทคนิคพิเศษพร้อมการตัดต่อด้วยคอมพิวเตอร์ กราฟฟิคเช่นเดียวกับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด  ทำให้มีความสมจริง อีกทั้งยังถ่ายทำที่ประเทศทิเบต ประเทศจีน ทำให้มีความสวยงาม และมีความยาวรวม 52 ตอน  โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวและออกฉายในทั่วโลก  โดยในประเทศไทยบริษัทได้มอบหมายให้อาร์เอสไอ ดรีม เป็นผู้ดูแลและดำเนินการด้านลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องและเป็นทางการ
ด้านนายบุญเพิ่ม  อินทนปสาธน์   กรรมการผู้จัดการ  บริษัท อาร์เอสไอ ดรีม  เอ็นเตอร์ เทนเม้นท์  จำกัด กล่าวว่า “Project  Ultraman”  นับเป็นภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ส ที่ถูกจับตามองมากที่สุดเรื่องหนึ่ง  นอกเหนือจากเทคนิคการถ่ายทำ และตัดต่อที่ดีเยี่ยมแล้ว  “Project  Ultraman”  ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งใหม่ในรอบ 25 ปี ของฮีโร่ที่คนไทยและคนทั่วโลกรู้จักและเฝ้ารอ  ซึ่งขณะนี้การถ่ายทำและตัดต่อแล้วเสร็จกว่า 80% และพร้อมที่จะฉายในเมืองไทยได้ในราวเดือนเมษายน  2550  พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ  360 องศา  จัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีในปีหน้า  โดยทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคอย่างเต็มที่
(9 พ.ย 49)